สายแล้ว
- Aurapa Dhorranintra
- Nov 2, 2021
- 1 min read
“กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงง” เสียงกรีดร้องของนาฬิกาสีแดงสดใสที่ผ่าอากาศเข้ามาปลุกให้ชายหนุ่มวัยยี่สิบปี สะดุ้งตื่นจากห้วงฝันแสนหวาน เขาเอื้อมมือไปหยิบนาฬิกาปลุกขึ้นมา ดวงตาที่ยังสะลึมสะลือลืมขึ้นมาเพื่อดูเวลา และทันทีที่ชายหนุ่มเจ้าของผมสีดำเห็นตัวเลขที่ปรากฏอยู่บนหน้าปัดนาฬิกา เขาก็รีบลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยความตกใจ
‘สายแล้ว อีกสิบนาทีก็จะถึงเวลาสอบ ตามกฎแล้วสามารถเข้าห้องสอบสายได้สิบนาที เราเหลือเวลาอีกแค่ยี่สิบนาที ต้องรีบแล้ว’ ชายหนุ่มคิดพลางรีบเปลี่ยนเป็นชุดนักศึกษา ผ่านไปห้านาทีชายหนุ่มก็พร้อมออกจากบ้านเขาหยิบรองเท้าผ้าใบออกมาสวมและรีบออกจากบ้านไป เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะผูกเชือกรองเท้า
ชายหนุ่มวิ่งไปที่ป้ายรถเมล์ที่อยู่ใกล้บ้าน แต่รอเท่าไหร่รถเมล์สายที่ชายหนุ่มต้องการก็ไม่มาเสียที เจ้าของผมสั้นสีดำร้อนอกร้อนใจเป็นอย่างมาก ถ้ารอนานกว่านี้ล่ะก็เขาต้องเข้าห้องสอบไม่ทันแน่ เมื่อคิดได้ดังนั้นชายหนุ่มจึงตัดสินใจวิ่งไปที่มหาวิทยาลัยแทน มันไม่ยากเกินความพยายามแน่นอน เพราะมหาวิทยาลัยอยู่ห่างจากบ้านของชายหนุ่มแค่สามป้ายรถเมล์เท่านั้น
เมื่อตัดสินใจได้แล้วชายหนุ่มจึงเริ่มวิ่งด้วยแรงทั้งหมดที่มี เขาวิ่งไปเรื่อยๆ แต่เมื่อวิ่งนานขึ้นเท้าของชายหนุ่มก็เริ่มรู้สึกเจ็บขึ้นมา และยิ่งเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อชายหนุ่มยังคงวิ่งต่อไปเรื่อยๆ การสวมรองเท้าผ้าใบพื้นยางแข็งๆวิ่งบนฟุตบาทที่ขรุขระเป็นระยะเวลานานทำร้ายเท้าของชายหนุ่มมากกว่าที่เขาคิดไว้ ขณะที่ความคิดของชายหนุ่มจมอยู่กับความเจ็บปวดที่เกาะอยู่ทั่วฝ่าเท้า ชายหนุ่มก็สะดุดเชือกรองเท้าของตัวเองจนล้มลงไปกองกับพื้นและรองเท้าของเขาก็กระเด็นหายไป
หลังจากที่ชายหนุ่มลุกขึ้นมาได้ เขาก็รีบมองหารองเท้าของตัวเอง และเมื่อเขามองไปที่ถนน ชายหนุ่มก็ต้องตกใจ รองเท้าผ้าใบของเขานั่นเอง มันไปตกอยู่กลางถนน เขาทิ้งรองเท้าแล้วไปสอบทั้งแบบนี้ไม่ได้ เพราะตามกฎของมหาวิทยาลัยแล้วคนที่สามารถเข้าห้องสอบได้ต้องเป็นคนที่แต่งกายชุดสุภาพเท่านั้น การใส่รองเท้าเพียงข้างเดียวยังกับห่างไกลคำว่าสุภาพอยู่มากทีเดียว
แม้รู้ว่าเป็นเรื่องที่อันตรายแต่ชายหนุ่มก็ตัดสินใจวิ่งไปเก็บรองเท้า เพราะแถวนี้ไม่มีทั้งไฟแดงและทางม้าลายเขาจึงต้องหาจังหวะที่รถบนถนนไม่เยอะวิ่งไปเก็บรองเท้า เมื่อพบจังหวะที่ต้องการชายหนุ่มก็กลั่นใจแล้ววิ่งไปเก็บรองเท้าที่ตกอยู่กลางถนน มีเสียงแตรรถดังไล่หลังมาแต่เขาไม่ได้หันกลับไปมอง เมื่อเก็บรองเท้าได้แล้วชายหนุ่มก็รีบวิ่งกลับมาที่ฟุตบาทอย่างรวดเร็ว คราวนี้เขายอมเสียเวลาเพื่อผูกเชือกรองเท้า หลังจากนั้นเขาก็เริ่มวิ่งอีกครั้งหนึ่งด้วยความระมัดระวังที่มากขึ้น
ในที่สุดชายหนุ่มก็ไปถึงมหาวิทยาลัย เขารีบไปที่ห้องสอบด้วยสภาพที่สะบักสะบอมเล็กน้อย แต่เมื่อชายหนุ่มไปถึงห้องเรียนเขาก็ต้องผิดหวัง เพราะอาจารย์ผู้คุมสอบไม่อนุญาตให้เขาเข้าห้องสอบเนื่องจากชายหนุ่มมาสายไปยี่สิบนาทีจากเวลาเริ่มสอบ เขาพยายามอธิบายสาเหตุที่มาสายให้อาจารย์ผู้คุมสอบฟัง แต่เพราะอาจารย์กลัวเรื่องการลอกข้อสอบจึงไม่อนุญาตให้เขาเข้าห้องสอบอยู่ดี
ชายหนุ่มเดินออกจากมหาวิทยาลัยด้วยความหดหู่ใจและไปหยุดพักที่ม้านั่งใกล้ๆกับมหาวิทยาลัย ตอนนี้เขาทั้งหมดแรงทั้งโศกเศร้า ชายหนุ่มคิดถึงเรื่องที่จะต้องลงเรียนวิชานี้ซ้ำและเรื่องที่จะโดนพ่อโกรธที่ตกวิชานี้อยู่เป็นเวลานาน ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังเศร้าอยู่นั้นเขาก็เหลือบไปเห็นป้ายโฆษณาที่ติดอยู่หน้าร้านขายรองเท้า “รองเท้าSKECHERS รองเท้าผ้าใบเพื่อสุขภาพจากประเทศอเมริกา สวมใส่นุ่มสบายเหมือนเท้าของคุณถูกห่อหุ้มด้วยนุ่น รองรับแรงกระแทกได้ดี แถมยังไม่ต้องผูกเชือกรองเท้าอีกด้วย หากคุณกำลังประสบปัญหาสวมใส่รองเท้าไม่สบาย เจ็บเท้าเมื่อใส่รองเท้าเป็นเวลานาน หรือไม่มีเวลาเพียงพอที่จะผูกเชือกรองเท้า รองเท้ายี่ห้อนี้แหละที่เหมาะสมกับคุณ” เมื่อชายหนุ่มอ่านโฆษณาจบ เขาก็เดินเข้าไปในร้านขายรองเท้าพร้อมกับคิดว่า ‘ได้เวลาเปลี่ยนรองเท้าใหม่แล้ว’

Comments