BLOODY PARTY คดีฆาตกรรม ราตรีสีชาด
- Aurapa Dhorranintra
- Dec 11, 2021
- 2 min read

BLOODY PARTY
คดีฆาตกรรม ราตรีสีชาด
“เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นในบ้านพักตากอากาศที่ถูกปิดตาย ท่ามกลางหุบเขาลึก สายข่าวของเรารายงานว่ามีผู้เสียชีวิต ทั้งหมดเจ็ดรายซึ่งทั้งหมดต่างเสียชีวิตด้วยวิธีที่ต่างกันออกไปและมีผู้ รอดชีวิตที่ปัจจุบันยังคงบาดเจ็บสาหัสอีกหนึ่งราย ส่วนเรื่องฆาตกร เป็นใครและเขาฆ่าคนพร้อมกันเจ็ดคนในเวลาเดียวกันด้วยวิธีที่ต่าง กันได้อย่างไรนั้นตำรวจยังคงดำเนินการสืบสวนอยู่ หากมีความคืบ หน้าอย่างไรเราจะรายงานให้ทุกท่านทราบในฉบับต่อไป” ข่าวคดีฆาตกรรมแปลกประหลาดที่ปรากฏอยู่บนหน้าหนึ่งของ หนังสือพิมพ์ทำลายบรรยากาศอันเงียบสงบของเช้าวันธรรมดาในฤดู ใบไม้ร่วง ชาวเมืองตกอยู่ในความโกลาหล ความหวาดกลัวปกคลุม ไปทั่วทุกหนแห่ง เสียงกระซิบกระซาบดังไปทั่วทั้งเมือง คำถามเกิด มากมาย ฆาตกรเป็นใคร เขามีความแค้นกับทั้งแปดหรือแค่สุ่มฆ่า คน เขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องหรือเปล่า แล้วตอนนี้ฆาตกรอยู่ที่ไหน ต่างคนต่างมีสมมุติฐานตัวเอง แต่คนที่รู้ความจริงคงมีแค่ผู้เสียชีวิต ทั้งเจ็ด ผู้รอดชีวิตที่ยังคงบาดเจ็บสาหัส และฆาตกรตัวจริงเพียง เท่านั้น
ศพที่ 5 : อากามิเนะ ยูเมะ
อากามิเนะ ยูเมะขยับโอบิเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมอง กระจก ภาพในกระจกเผยให้เห็นร่างของหญิงสาวผู้มีผมสีดำดุจหมึก ยาวจรดกลางหลังในชุดกิโมโนสีเหลืองเปลือกไข่ ใบหน้าของหญิง สาวปรากฏรอยยิ้มนิดๆ ราวกับว่าเธอพอใจในฝีมือของตัวเอง แม้ว่า เธอจะไม่ได้สวมใส่กิโมโนมานานหลายปีแล้วแต่ความคุ้นเคยยังคง หลงเหลืออยู่ต่อให้หลับตาเธอก็สามารถใส่ชุดกิโมโนได้อย่างสวย งาน เมื่อหญิงสาวคิดมาถึงตรงนี้รอยยิ้มก็สลายหายไปเหลือแต่เพียง ความขุ่นมัวในดวงตา เธอเกลียดกิโมโน การใส่กิโมโนทำให้เธอ หวนคิดถึงอดีตที่เธอฝังกลบมันไปนานแล้ว แต่ถึงกระนั้นเธอก็ต้อง ทนใส่ เพื่อที่เธอจะได้กลับไปหาน้องสาวอีกครั้งหนึ่ง ตระกูลอากามิเนะเป็นตระกูลเก่าแก่ตระกูลหนึ่งในญี่ปุ่น พวกเขา เปิดร้านค้าขายผ้าญี่ปุ่นและชุดกิโมโนขนาดใหญ่มาหลายชั่วอายุคน แล้ว นั่นทำให้รอบตัวของพวกเขาเต็มไปด้วยกฎเกณฑ์ ทุกสิ่งทุก อย่างต้องมีหลักการและระเบียบวินัย โดยเฉพาะกับทายาทแฝดสาว ทั้งสองคนของตระกูลอากามิเนะ ยูเมะและอากามิเนะยูกิ พวกเธอถูก เลี้ยงดูมาให้เป็นคุณหนูผู้สมบูรณ์แบบ แต่ความสมบูรณ์แบบก็มี ราคาของมัน การถูกขีดเส้นชีวิต การต้องอยู่ในกฎระเบียบตั้งแต่ เช้าจรดเย็น และการไม่อาจทำตามใจปรารถนาทำให้ใจของบางคน กลายเป็นภูเขาไฟที่คุกรุ่นและรอวันประทุ และในไม่ช้าวันที่ภูเขาไฟ ระเบิดก็มาถึง วันที่ภูเขาไฟประทุนั้นมีฝนตกหนักและเป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ สิบสี่ของฝาแฝดทายาทตระกูลอากามิเนะ แต่ด้วยกำหนดการที่วาง ไว้ล่วงหน้าทำให้ไม่สามารถเลื่อนงานวันเกิดได้ แม้จะเรียกว่างานวัน เกิดแต่บรรยากาศภายในงานกลับคล้ายวันรวมญาติเสียมากมาย เหล่าผู้ใหญ่ต่างพูดคุยกันเรื่องทายาทฝาแฝด ว่าอนาคตของพวก เธอควรจะเป็นแบบไหน พวกเธอควรทำอะไร แต่ไม่มีแม้สักคนที่จะ หันหน้ากลับไปถามองทายาทสาวที่นั่งอยู่ใกล้ๆว่าแท้จริงแล้วอะไรคือ สิ่งที่พวกเธอต้องการกันแน่ แม้ยูเมะและยูกิจะคุ้นเตยกับการถูก ปฏิบัติราวกับเป็นเพียงแค่ตุ๊กตา แต่พวกเธอก็ไม่เคยชินเสียที่ ทายาทคนน้องนั้นเนื่องจากเป็นคนหัวอ่อนและใจดีทำให้เธอไม่แสดง ท่าทีอะไรออกมาไม่ว่าพวกผู้ใหญ่จะเป็นอย่างไรเธอก็ยอมทน เนื่องจากเธอไม่ต้องการทำให้ทุกคนขุ่นเคือง แต่พี่สาวฝาแฝดผู้เป็นดั่งขั้วตรงข้ามของเธอนั้นกลับไม่ได้คิดแบบนั้น เมื่อเนื้อหาของบท สนทนาเวียนมาถึงเรื่องการคัดเลือกคู่หมั่นที่เหมาะสมให้แก่เหล่า ทายาท เธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป “ทุกท่านคะ ข้าพเจ้าขอขอบคุณในความกรุณาของทุกท่านมาก เลยนะคะ แต่ข้าพเจ้ามีผู้ที่ข้าพเจ้ารักอยู่แล้วค่ะ” ยูเมะโพลงขึ้นมา “คนผู้นั้นคือใคร” นำ้เสียงเข้มงวดของผู้นำตระกูลคนปัจจุบันพ่อ ของสองแฝดดังขึ้น แฝดสาวคนที่นิ่งเงียบไปราวกับไม่มั่นใจในคำตอบ “อากามิเนะ ยูกิตอบคำถามเดี๋ยวนี้” พ่อของเธอถามย้ำอีกครั้ง หนึ่ง “คุณโยชิบะ อากิโตะค่ะ” ผู้เป็นลูกตอบเสียงสั่นด้วยความหวาด กลัว “โยชิบะ อากิโตะ ลูกชายของแม่บ้านน่ะรึ นี่มันเรื่องเพ้อฝันอะไร กัน” ผู้นำตระกูลตวาดด้วยความโกรธ “ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันนะคะคุณพ่อ เรารักกันค่ะ ลูกอยากจะแต่งงาน กับเขาและอยู่ด้วยกันตลอดไปค่ะ” ลูกสาวอ้อนวอน “อยู่ด้วยกันตลอดไป! เป็นไปไม่ได้ ลูกชายของคนรับใช้จะ เหมาะสมคู่ควรกับว่าที่ผู้นำตระกูลได้อย่างไร” ผู้เป็นพ่อตะโกนด้วย ความโกรธจัด “แต่เราควรแต่งงานกับคนที่เรารักไม่ใช่คนที่เราคู่ควรนะคะ” ยู เมะแย้ง “หุบปาก” ผู้นำตระกูลตวาด “ใครก็ได้ไปไล่สองแม่ลูกโยชิบะนั่น ออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ” “ขอรับ” เหล่าคนรับใช้ที่อยู่ภายในงานรับคำสั่งและรีบวิ่งออกไป “อย่านะคะคุณพ่อ” ยูเมะร้องห้ามพลางพยายามจะวิ่งออกไปข้าง นอกแต่ถูกรับใช้จับตัวเอาไว้ “หุบปาก แล้วกลับห้องไปซะ ทั้งสองคน” คำประกาสิทธ์จากพ่อ ของเธอตัดจบทุกอย่าง อากามิเนะ ยูเมะกำลังเก็บเสื้อผ้าใส่ลงในกระเป๋าด้วยความ หงุดหงิด เป็นแบบนี้ทุกทีเลยไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่เคยฟังคำพูดของเธอ เลย เธอทนไม่ไหวแล้ว เธอจะหนีออกจากบ้านหลังนี้ หนีออกจากชีวิตแบบนี้ หนีออกจากการเป็นอากามิเนะ ยูเมะ นับจากนี้เป็นต้นไป เธอจะมีชีวิตที่เป็นของเธอเอง แอ็ด เสียงเปิดประตูดังขึ้น เมื่อยูเมะหันไปมองก็พบว่าผู้ที่เข้ามา คือน้องสาวฝาแฝดของเธอ อากามิเนะ ยูกิ “คุณพี่กำลังทำอะไรอยู่หรือคะ” ทันที่ที่ยูกิเข้ามาในห้องเธอก็เอ่ย ปากถาม “ไปจากที่นี่” ยูเมะตอบกลับโดยที่ไม่หันกลับมามองอีก เธอเก็บ ของเสร็จแล้ว เธอพร้อมแล้วที่จะออกจากบ้าน ยูเมะคิดพลางเดินไป ที่ประตูเผชิญหน้ากับน้องสาว “คุณพี่จะออกจากบ้านจริงๆหรือคะ” ยูกิถามอีกครั้ง “ใช่แล้ว ขอทางหน่อยสิ” ยูเมะตอบกลับ น้องสาวไม่ได้หลีกทาง แต่ตรงเข้าไปกอดพี่สาว “ถ้าคุณพี่จะไปอย่างน้อยก็ช่วยพาน้องไปด้วยเถอะนะคะ”
“พี่ก็อยากพาน้องไปด้วยกันนะ แต่...” ยูเมะกอดตอบ “พี่ไม่อยากให้น้องต้องลำบากไปกับพี่ พี่เป็นคนที่มีปัญหาและไม่สามารถ ทนอยู่ที่นี่ต่อไปได้น้องไม่สมควรจะต้องมาลำบากกับพี่เลย” “แต่...” เสียงของน้องสาวสั่นเครือราวกับจะร้องไห้
“รอพี่ก่อนนะยูกิ” ยูเมะพูดแทรกขึ้นมา “ถ้าพี่ตั้งตัวได้เมื่อไหร่พี่ จะพาน้องไปอยู่ด้วยแน่นอน พี่ให้สัญญา” “ค่ะ” ยูกิตอบรับด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย และนั่นคือบทสนทนาสุดท้ายก่อนอากามิเนะ ยูเมะจะหนีออกจาก บ้านความเย็นของน้ำตาที่ไหลทำให้ยูกิรู้สึกตัวจากความหลัง เธอหนี ออกจากบ้านมาหลายปีแล้ว ตอนนี้เธอไม่เด็กผู้หญิงคนเดิมที่อีกต่อ ไปแล้ว ตอนนี้เธอเป็นหญิงสาวที่สามารถดูแลน้องสาวได้แล้ว วันนี้ เธอจะกลับไปบ้านและพาน้องสาวของเธอออกมา และพวกเธอก็จะ ได้อยู่ด้วยกับอย่างมีความสุขตลอดไป
ทันทีที่อากามิเนะ ยูเมะเดินทางมาถึงบ้านตระกูลอากามิเนะ เธอก็ ต้องประหลาดใจ ทุกคนในบ้านต่างก็แต่งตัวด้วยชุดสีดำ หญิงสาว เริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี ยูเมะจึงวิ่งไปหาแม่ของเธอ “คุณแม่คะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือคะ” ยูเมะถาม “ยูเมะ! ลูกกลับมาแล้วหรือ พวกเราคิดว่าลูกจะไม่กลับมาเสีย แล้ว” แม่พูดขึ้นเมื่อเห็นหน้าลูกสาวคนโต “หนูกลับมาหาน้องค่ะ” ยูเมะตอบ เธอไม่อยากจะอธิบายอะไร มากนัก “แม่คิดว่าลูกคงไม่ได้เจอน้องแล้ว” แม่พูดด้วยนำ้เสียงสะอื้น “ทำไมคะ” ยูเมะเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีอีกครั้ง “น้องของลูก... เธอ... เสียชีวิตแล้ว” แม่บอกขณะที่ร้องไห้ไปด้วย “อะไรนะคะ” ยูเมะร้องออกมาด้วยความตกใจ “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ คุณแม่ต้องแกล้งหนูแน่ๆ คุณแม่โกรธที่หนูหนีออกจาก บ้านใช่ไหมคะ เลยลงโทษหนูด้วยวิธีนี้” “แม่ไม่ได้แกล้ง ยูเมะ น้องเสียชีวิตแล้วจริงๆ” แม่พูดช้าๆ เหมือนต้องการเน้นทุกคำ “เธอฆ่าตัวตาย” “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ ก็น้องบอกว่าจะรอหนูกลับบ้านนี่นา” ยูเมะพึมพำด้วยท่าทีเหม่อลอย “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ ได้ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้” ทันใดนั้นเองดวงตายูเมะก็ถูกความมืดครอบงำ แล้วเธอก็ไม่รับรู้ อะไรอีกเลย
ทันทีที่ฉันตื่นขึ้นมา ฉันก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องคุ้นเคย นี่มันห้อง ของฉันก่อนที่จะหนีออกจากบ้านนี่นา จริงสิ ยูเมะ แม่บอกว่าน้องฆ่า ตัวตาย เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ น้อง สัญญาว่าจะรอฉันกลับมารับ เป็นไปไม่ได้ที่ยูกิจะไม่รอฉัน จริงสิ ทุก คนต้องแกล้งฉันแน่ๆ ยูกิคงอยากแกล้งให้ฉันตกใจ เมื่อฉันไปที่ห้อง ของเธอ เธอจะต้องรอฉันอยู่ที่ห้องแน่ๆ เธอจะยิ้มให้ฉันแล้วถามฉันว่าทำไมฉันถึงมารับเธอช้านัก เธอรอฉันนานจนเธองอนฉันแล้ว ฉัน ต้องรีบไปที่ห้องของยูกิก่อนที่เธอจะงอนฉันไปมากกว่านี้ เป็นอย่างที่ฉันคิดจริงๆด้วย ทันทีที่ฉันไปถึงห้องของยูกิ ฉันก็พบ ว่ายูกิยืนยิ้มรอฉันอยู่ภายในห้อง เธอรอฉันอยู่จริงๆ ด้วย ฉันรีบวิ่ง ออกไปหาแม่ “หนูรู้อยู่แล้วล่ะค่ะว่าคุณแม่ล้อหนูเล่น ยูกิอยู่นี่ไงคะ” ฉันร้อง บอกแม่ด้วยความดีใจ แม่ตกใจจนหน้าซีด “ยูเมะ ยูกิตายไปแล้ว เธอไม่ได้อยู่ที่นี่อีก ต่อไปแล้ว” “คุณแม่พูดเรื่องอะไรคะ ยูกิก็ยืนอยู่นี่ไง” ฉันแย้งพลางชี้ไปทางยู กิที่ยืนอยู่ข้างๆ แม่ไปทางยูกิและพูดต้วยนำ้เสียงที่สั่นเครือ “ยูเมะ แม่รู้ว่าลูก เสียใจ แต่น้องตายไปแล้วจริงๆ แล้วตรงนั้นก็ไม่มีใครด้วย” “ไม่จริง ยูกิอยู่ตรงนี้จริงๆ ทำไมคุณแม่ถึงต้องแกล้งทำเป็นมอง ไม่เห็นด้วยล่ะคะ อ้อ รู้แล้ว คุณแม่ยังโกรธที่หนูหนีออกจากบ้านอยู่ ใช่ไหมคะ หนูจะไปถามคนอื่น ต้องมีคนที่พูดความจริงกับหนูแน่” ฉันพูดพลางวิ่งไปหาคนอื่น แต่ไม่ว่าฉันจะถามใครทุกคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่ายูกิตาย ไปแล้วและพวกเขาไม่เห็นยูกิ เป็นไปไม่ได้หรอก ทุกคนต้องโกรธฉัน แล้วเอาความโกรธไปลงกับยูกิแน่เลย เห็นอยู่ชัดๆว่ายูกิอยู่ข้างฉัน ตลอดเวลา ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ยูกิได้รับความอยุติธรรมขนาดนี้เชียว หรือ ไม่ได้การแล้ว ฉันต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อยุติการกลั่นแกล้งนี้ซะ ฉันกลับไปยังห้องของยูกิ ที่นั่นฉันได้พบกับรูปภาพของผู้ชายคน หนึ่ง ชายคนนั้นเป็นคู่หมั่นของน้องสาวของฉัน เขามีนามว่า นางา ซาวะ ฮิโรกิ ติ้ง เสียงแจ้งเตือนดังมาจากคอมพิวเตอร์ที่ถูกเปิดค้างไว้ของน้อง สาว ดูเหมือนจะมีข้อความส่งมาหาเธอ เป็นข้อความเชิญไปร่วมงาน เลี้ยงอะไรซักอย่างที่ดูน่าเบื่อ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ฉันจะไปงาน เลี้ยงและฉันจะพาน้องสาวไปด้วย ถ้าที่นี่ไม่มีใครเห็นตัวตนของเธอ ข้างนอกนั่นในที่ที่ไม่มีใครรู้จักเราเธอจะมีตัวตน
ตอนที่ฉันไปถึงงานเลี้ยงมีคนหลายคนอยู่ที่นั่นก่อนแล้ว แต่ไม่มี ใครที่สะดุดสายตาเท่ากับชายคนนั้น คนที่ฉันพึ่งเคยเห็นหน้าแต่จำ ได้ไม่เคยลืม นางาซาวะ ฮิโรกิ คู่หมั่นของน้องสาวของฉัน มีหลาย คนเข้ามาคุยกับฉันแต่ไม่มีใครเลยที่เห็นน้องสาวฉันเลย การกลั่น แกล้งมันลามมาถึงที่นี่เลยหรือ ทุกคนใจร้ายมาก แต่ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่สนใจพวกเขาแล้ว ยังไงนางาซาวะซังก็ต้องเห็นยูกิแน่ๆ ก็เป็น คู่หมั่นกันนี่นา ฉันจำเรื่องราวระหว่างงานเลี้ยงไม่ได้มากนัก เพราะฉันสนใจแค่ คนเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นคือ นางาซาวะ ฮิโรกิ ฉันพยายามพาน้อง สาวไปอยู่ใกล้ๆกับเขาและหวังว่าเขาจะหันมาทักเธอ ฉันไม่ทักเขา ก่อนหรอกนะ ชายที่จะแต่งงานกับน้องสาวของฉันจะต้องให้ความ สำคัญกับน้องสาวของฉันเป็นอันดับแรก แต่ทุกอย่างไม่เป็นดั่งหวัง ตลอดงานเลี้ยงชายคนนั้นไม่หันไป มองอย่างอื่นเลย สิ่งเดียวที่ดึงดูดความสนใจของเขาก็คือผู้ชายอีก คนหนึ่งที่ฉันไม่รู้จัก เขามองชายคนนั้นตลอดเวลาด้วยสายตาที่ฉัน รู้จักดีสายตาที่แสดงถึงความรักใคร่ราวกับว่าแม้แต่ชีวิตก็ให้ได้ ต้องใช่แน่ๆ เลย ผู้ชายคนนี้ นางาซาวะ ฮิโรกิ มีคนรักอยู่แล้ว แล้ว เขามาคบกับน้องสาวของฉันทำไม หรือแค่คบเธอเพื่อบังหน้า งั้น เขาก็คงเป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการกลั่นแกล้งน้องสาวของเธอด้วย สินะ ไม่สิ เขาต้องเป็นตัวการในการกลั่นแกล้งยูกิแน่ๆ ดี ในเมื่อ เขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทุกคนทำเหมือนน้องสาวของฉันไม่มีตัวตน ฉันก็จะทำให้ตัวตนของนายหายไปจากโลกนี้เอง
หลังงานเลี้ยงเลิกฉันก็เสียเวลาไปกับการหาอาวุธ ระหว่างที่หา อาวุธในหัวฉันก็มีแต่คำว่า มันสมควรตาย มันสมควรตาย มัน สมควรตาย มันสมควรตาย มันสมควรตาย มันสมควรตาย มัน สมควรตาย เต็มไปหมด ในที่สุดฉันก็เจอมีดเล่มหนึ่งอยู่กับชุดเกราะ อัศวินที่ถูกตั้งอยู่บนบันไดชั้นสอง น่าแปลกที่บ้านพักตากอากาศแห่ง นี้ใช้อาวุธจริงในการตกแต่งบ้าน เหมือนโชคจะเข้าข้างระหว่างที่ฉันกำลังจะกลับไปยังห้องจัดงานเลี้ยง ฉันก็ได้เห็นนางาซาวะ ฮิโรกิเดิน เข้าไปในห้องพักกับชายคนรักของเขา เอาเถอะฉันรอได้ ฉันจะให้ เวลานายมีความสุขกับคนรักอีกสักหน่อย ดื่มด่ำกับมันให้เต็มที่ล่ะ เพราะเมื่อนายเปิดประตูออกมาเมื่อไหร่ เมื่อนั้นแหละคือนาทีสุดท้าย ของชีวิตนาย
ไม่รู้ว่าฉันยืนรออยู่นานแค่ไหน แต่นั่งก็ไม่ได้สำคัญอะไร. ฉันมี เวลาอีกทั้งคืนในการเฝ้ารอ แอ๊ด เสียงเปิดประตูดังขึ้น การรอคอย ของฉันสิ้นสุดลงแล้ว ฉันกำมือในมือแน่น สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้ว พุ่งเข้าไปเสียบมีดเข้ากลางร่างของชายสารเลวที่ทำร้ายน้องสาวของ ฉัน กลิ่นคาวเลือดที่ฟุ้งไปทั่วแลหยดเลือดมากมายที่แตกกระเซ็น ทำให้ฉันรู็สึกสบายใจ สำเร็จแล้ว ในที่สุดฉันก็จัดการกับคนที่ ทำร้ายน้องสาวได้สำเร็จ ฉันหันกลับไปเพื่อดูน้องสาว เธอต้องดีใจ กับฉันแน่ที่สามารถจัดการกับคนที่ทำร้ายเธอได้สำเร็จ แต่ยังไม่ทันที่ ฉันจะได้เห็นหน้าของยูกิ ก็มีชายคนหนึ่งที่ฉันไม่รู้จักพุ่งเข้ามาหาฉัน เขาพยายามแย่งมีดไปจากฉัน ไม่ได้นะ ฉันจะถูกจับได้ตอนนี้ไม่ได้ ในโลกที่ทุกคนรังแกน้องสาวของฉัน ถ้าฉันถูกจับแล้วใครจะปกป้อง เธอ ฉันพยายามจะใช้มีดแทงเขา กำลังจะสำเร็จแล้ว รออีกนิดนะ ยูกิ ฉันคิดแบบนั้นพลางพุ่งเข้าหาเขาด้วยกำลังทั้งหมดที่มี แต่อยู่ๆ เขาก็บ้าคลั่งขึ้น เขากรีดร้องแล้วก็ตะโกน แรงของเขาเริ่มมากขึ้น และมากขึ้น จนในที่สุดกำลังของฉันก็ต้านเขาไม่ไหว เขาแย่งมีดไป จากมือของฉัน แล้วใช้มันจ้วงแทงมาที่ลำตัวของฉันซำ้แล้วซำ้เล่า แต่ฉันไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิดเพราะร่างกายของฉันด้านชาไปทุกส่วน ดวงตาของฉันเริ่มพร่ามัวแล้ว แต่ฉันก็ยังคงจับจ้องไปที่หน้าของน้อง สาวของฉัน ขอโทษนะที่ต้องให้อยู่คนเดียวอีกแล้ว ขอโทษนะที่ รักษาสัญญาไม่ได้ แต่ได้โปรดอย่าร้องไห้ เพราะต่อให้ฉันจะตายไป ฉันก็จะยังอยู่เคียงข้างเธอ เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป น้องสาวที่รัก ของฉัน
- จบบริบูรณ์ -
Comments